ดาวโหลด บทความ สถิติผู้ใช้ เกี่ยวกับเรา ติดต่อเรา
Homeมือถือ

การเลือกซื้อมือถือ

เวลามือถือพัง แล้วผมอยากซื้อเครื่องใหม่ ผมจะค้นใน Lazada และ Shopee

Redmi
โดยค้นคำว่า Redmi แล้วเลือกเฉพาะร้านค้าทางการ อย่างวันนี้ 19 ก.พ. 68 ผมจะเห็นรุ่น A3 ราคา 2299 บาท, 14C ราคา 3399 บาท, Note 14 ราคา 5999 บาท, 13 ราคา 4990 บาท
เนื่องจากผมชอบใช้มือถือยี่ห้อนี้ ก็เลยเข้าใจความแตกต่างของแต่ละรุ่น
Redmi A3 จะเป็นรุ่นเริ่มต้น ราคาถูกสุด คุณภาพสเปคต่างๆ ก็พอๆกับรุ่นที่แพงกว่า จะแตกต่างแค่ สเปคกล้องจะลดลงเหลือแค่ 5-8 MP
Redmi 13 จะเป็นรุ่นหลัก มีสเปคยัดมาเยอะที่สุด ในระดับราคาไม่แพง ให้กล้องระดับ 50MP พร้อมเลนส์ Wide และ Macro
Redmi 13A , 13C จะลดสเปคลงมานิดนึง ให้กล้อง 50MP แต่มักจะตัดเลนส์อื่นๆออก
Redmi Note 13 ก็จะเป็นรุ่นสูงกว่า สเปคพอๆกับ Redmi 13 แต่สูงกว่า
Redmi Note 13 Pro ก็จะแพงขึ้นไปอีก เพราะเน้นกล้องมากกว่า
เวลาผมเลือกซื้อ ผมจะมองแค่รุ่น 13 และ Note 13 เพราะสเปคจะดี และราคาไม่แพง ผมก็จะจดจำราคาของแต่ละรุ่นไว้ รอจนถึงวันที่ 2 เดือน 2 หรือวันที่ 3 เดือน 3
ปีนึงก็จะมี 12 ครั้ง ที่แอพต่างๆจะจัดโปรลดราคา ก่อนจะถึงวันนั้น 2-3 วัน เราก็คอยเก็บ Code ลดราคา
และพอถึงวันลดราคา เราก็คอยดูเวลาที่เป็น Flash Sale เมื่อกดใช้ Code ถูกเวลา เราก็จะได้ส่วนลด 10 - 20%

Oppo
มือถือ Oppo จะราคาแพงกว่า Redmi เพราะในระดับราคา 3999 จะได้แค่กล้อง 8MP ถ้าอยากได้กล้อง 50MP ก็ต้องใช้เงิน 5000 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าหา Oppo มือสอง จะหามือถือดีๆ ได้ในราคา 1200 - 2500 บาท เท่านั้น เช่น รุ่น A83, F7, F9, F11
แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงว่าอาจจะไม่เหมือนของใหม่แกะกล่อง คือ ถ้างบจำกัดจริงๆ มือถือแบบนี้ก็พอใช้ได้

สำหรับมือถือยี่ห้ออื่นก็น่าใช้ ทั้ง Samsung, Vivo แต่ผมคุ้นเคยแค่ 2 ยี่ห้อนี้ ก็เลยแนะนำแค่นี้ครับ

ข้อดีของการซื้อมือถือระดับราคาไม่เกิน 4000 บาท คือ เวลาจอแตก เราสามารถหาซื้อจอมาเปลี่ยนเองในราคาแค่ 400 บาท
เช่นเราสนใจ Redmi 13 และอยากรู้ว่า ราคาจอเท่าไหร่ ก็ค้นใน Lazada ว่า Redmi 13 จอ ก็จะพบว่ามันราคาแค่ 380 บาท

สำหรับมือถือใหม่ ผมจะเลือก ร้านค้าทางการ เพราะจะได้ของแท้
ส่วนมือถือมือสอง ผมจะเลือกร้านที่ มีคนซื้อเยอะๆ และรีวิวดี

19 ก.พ. 68
© 2000 - 2025 palthai.com. All rights reserved.